หมวด 1
การดําเนินการก่อนกิจกรรมการรื้อถอน
ข้อ 3 แผนงานการรื้อถอนเบื้องต้น แผนงานการรื้อถอนโดยละเอียด และประมาณการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ต้องมีรายการตามที่กําหนดท้ายกฎกระทรวงนี้ และในแต่ละรายการให้มีรายละเอียด ตามที่อธิบดีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ 4 เพื่อให้การส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และครอบคลุมถึงการศึกษาผลกระทบท่ีอาจจะเกิดขึ้น ให้ผู้รับสัมปทานมีหน้าที่ปฏิบัติตามกระบวนการ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน ประกอบด้วยรายงานและแผนดังต่อไปนี้ หน้า 3 เล่ม 133 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 กุมภาพันธ์ 2559
(1) รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน
(2) รายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุดจากวิธีการรื้อถอนที่กําหนดไว้ ในรายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน
(3) แผนการจัดการสิ่งแวดล้อมสําหรับกิจกรรมการรื้อถอน
(4) แผนการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายหลังกิจกรรมการรื้อถอน การจัดทํารายงานและแผนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดี ประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
ข้อ 5 ให้ผู้รับสัมปทานยื่นแผนงานการรื้อถอน ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน และรายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้ง ที่เหมาะสมที่สุด เพื่อขอรับความเห็นชอบจากอธิบดีตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(1) เมื่อผู้รับสัมปทานไม่ได้ใช้งานสิ่งติดตั้งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาเกินหนึ่งปี ให้ผู้รับสัมปทาน ยื่นเอกสารตามลําดับ ดังต่อไปนี้
(ก) รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอนและรายงานการพิจารณาวิธีการ รื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการไม่ใช้งานสิ่งติดตั้งจากอธิบดี
(ข) แผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ภายในสองปี นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งการไม่ใช้งานสิ่งติดตั้งจากอธิบดี
(2) เมื่อปริมาณสํารองปิโตรเลียมของสัมปทานต่ํากว่าร้อยละสี่สิบของผลรวมของปริมาณ การผลิตปิโตรเลียมสะสมและปริมาณสํารองปิโตรเลียม ให้ผู้รับสัมปทานยื่นเอกสารตามลําดับดังต่อไปนี้
(ก) แผนงานการรื้อถอนเบื้องต้นและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ภายในสองปี นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งปริมาณสํารองปิโตรเลียมต่ำกว่าร้อยละสี่สิบจากอธิบดี
(ข) รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าสี่ปีก่อนเริ่มดําเนิน กิจกรรมการรื้อถอน
(ค) รายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด ไม่น้อยกว่าสามปี ก่อนเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน
(ง) แผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าสองปีก่อนเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน
(3) ในกรณีที่ระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมเหลือห้าปีสุดท้ายตามที่กําหนดในสัมปทาน ให้ผู้รับสัมปทาน ยื่นเอกสารตามลําดับดังต่อไปนี้
(ก) แผนงานการรื้อถอนเบื้องต้นและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าห้าปี ก่อนสิ้นสุดระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม
(ข) รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าสี่ปีก่อนเริ่มดําเนิน กิจกรรมการรื้อถอน หน้า 4 เล่ม 133 ตอนที่ 14 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 กุมภาพันธ์ 2559
(ค) รายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด ไม่น้อยกว่าสามปี ก่อนเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน
(ง) แผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าสองปีก่อนเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน
(4) นอกจากกรณีตาม (1) (2) หรือ (3) หากผู้รับสัมปทานประสงค์จะทําการรื้อถอนส่ิงติดตั้ง ให้ผู้รับสัมปทานมีหนังสือแจ้งความประสงค์พร้อมกับกําหนดเวลาเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอนเพื่อขอ ความเห็นชอบจากอธิบดี และเมื่อได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีแล้ว ให้ยื่นเอกสารตามลําดับดังต่อไปนี้
(ก) รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอนและรายงานการพิจารณา วิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด ไม่น้อยกว่าสามปีก่อนเริ่มดําเนนกิ ิจกรรมการรื้อถอน
(ข) แผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ไม่น้อยกว่าสองปีก่อนเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน
ข้อ 6 ในกรณีตามข้อ 5 (3) เมื่อผู้รับสัมปทานได้ยื่นแผนงานการรื้อถอนเบื้องต้น และประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนตามข้อ 5 (3) (ก) พร้อมกับวางหลักประกัน ถ้าผู้รับสัมปทาน ได้ยื่นคําขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม ผู้รับสัมปทานมีสิทธิขอผ่อนผันการดําเนินการตามข้อ 5 (3) (ข) (ค) และ (ง) และให้อธิบดีมีอํานาจพิจารณาผ่อนผันได้ตามที่เห็นสมควร
ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานได้รับอนุมัติให้ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม ให้ผู้รับสัมปทานปรับปรุง แผนงานการรื้อถอนเบื้องต้นและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนภายในสองปีนับแต่วันสิ้นสุด ระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม และการดําเนินการรื้อถอนให้เป็นไปตามที่กําหนดในข้อ 5 (3) (ข) (ค) และ (ง)
ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่ได้รับอนุมัติให้ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม ให้ผู้รับสัมปทานดําเนินการ ตามข้อ 5 (3) (ข) (ค) และ (ง) ภายในระยะเวลาที่อธิบดีกําหนด
ข้อ 7 หากผู้รับสัมปทานไม่เห็นด้วยกับหนังสือแจ้งของอธิบดีตามข้อ 5 (1) หรือ (2) ให้ดําเนินการดังต่อไปนี้
(1) กรณีตามข้อ 5 (1) ให้ผู้รับสัมปทานยื่นคําชี้แจงเป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากอธิบดี โดยอธิบดีจะต้องพิจารณาข้อชี้แจงดังกล่าวให้แล้วเสร็จและ แจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทานทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือชี้แจง และเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน หากอธิบดีเห็นชอบกับคําชี้แจง ผู้รับสัมปทานไม่มีหน้าที่ ต้องดําเนินการตามข้อ 5 (1) แต่หากอธิบดีไม่เห็นชอบกับคําชี้แจงดังกล่าว ให้ผู้รับสัมปทาน ดําเนินการตามข้อ 5 (1) นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งคําสั่งไม่เห็นชอบจากอธิบดี
(2) กรณีตามข้อ 5 (2) ให้ผู้รับสัมปทานยื่นคําชี้แจงเป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากอธิบดี พร้อมกับจัดให้มีบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกําหนด เพื่อทําการประเมินปริมาณสํารองปิโตรเลียม ทั้งนี้ การประเมินปริมาณสํารองปิโตรเลียมต้องดําเนินการ ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากอธิบดี โดยอธิบดีจะพิจารณา ปริมาณสํารองปิโตรเลียมที่บุคคลภายนอกตรวจสอบแล้วและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทานทราบ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการประเมินปริมาณสํารองปิโตรเลียมจากผู้รับสัมปทานและเอกสาร ประกอบการพิจารณาครบถ้วน หากอธิบดีเห็นชอบกับผลการประเมินปริมาณสํารองปิโตรเลียมดังกล่าว ผู้รับสัมปทานไม่มีหน้าที่ต้องดําเนินการตามข้อ 5 (2) แต่หากอธิบดีไม่เห็นชอบกับผลการประเมินดังกล่าว หรือผู้รับสัมปทานไม่ดําเนินการให้บุคคลภายนอกประเมินปริมาณสํารองปิโตรเลียมให้แล้วเสร็จภายใน ระยะเวลาที่กําหนด ให้ผู้รับสัมปทานดําเนินการตามข้อ 5 (2) นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งไม่เห็นชอบ จากอธิบดีหรือนับแต่วันที่ครบกําหนดระยะเวลาดังกล่าว แล้วแต่กรณี
ข้อ 8 ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานกระทําการอันเป็นเหตุที่จะเพิกถอนสัมปทานตามมาตรา 51 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมหรือระยะเวลาผลิตปิโตรเลียม ที่ได้รับการต่อและรัฐมนตรีได้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทานทราบถึงเหตุนั้นตามมาตรา 52 แล้ว ให้ผู้รับสัมปทานยื่นแผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนต่ออธิบดี ภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่อธิบดีกําหนด
ข้อ 9 ให้อธิบดีพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานการรื้อถอน ประมาณการค่าใช้จ่าย ในการรื้อถอน รายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน และรายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอน สิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุดให้แล้วเสร็จ และแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทานทราบภายในกําหนดระยะเวลา ดังต่อไปนี้
(1) เก้าสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแผนงานการรื้อถอนเบื้องต้นและประมาณการค่าใช้จ่าย ในการรื้อถอน พร้อมกับเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน
(2) หนึ่งร้อยแปดสิบวัน นบแต ั ่วันที่ได้รับรายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน และเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน
(3) เก้าสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด และเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วนและอธิบดีได้เห็นชอบรายงานการประเมินด้านสิ่งแวดล้อม จากการรื้อถอน
(4) หนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับแผนงานการรื้อถอนโดยละเอียดและประมาณการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน พร้อมกับเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน
การพิจารณาให้ความเห็นชอบของอธิบดี หากมีเหตุจําเป็นที่ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ระยะเวลาดังกล่าวตามวรรคหนึ่งได้ ให้อธิบดีขยายระยะเวลาการพิจารณาตามวรรคหนึ่งออกไปอีก ตามความจําเป็นและแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับสัมปทานทราบการขยายระยะเวลาดังกล่าว แต่ทั้งนี้ระยะเวลา ที่ขยายแต่ละครั้งต้องไม่เกินระยะเวลาที่กําหนดไว้ในวรรคหนึ่ง
ในกรณีที่อธิบดีเห็นว่าแผนงานการรื้อถอน ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน รายงานการประเมิน ด้านสิ่งแวดล้อมจากการรื้อถอน หรือรายงานการพิจารณาวิธีการรื้อถอนสิ่งติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด ไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด หรือมีรายละเอียดไม่เพียงพอ ให้อธิบดีมีอํานาจ สั่งให้ผู้รับสัมปทานแก้ไขหรือยื่นรายละเอียดเพมเติ่ ิมภายในระยะเวลาที่กําหนด ทั้งนี้ ระยะเวลาที่ผู้รับสัมปทาน อยู่ในระหว่างดําเนินการแก้ไขนั้น ไม่ให้ถือว่าเป็นระยะเวลาการพิจารณาของอธิบดี
การพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงานการรื้อถอนและประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนของอธิบดี ตามวรรคหนึ่ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการด้วย
ข้อ 10 ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่ผู้รับสัมปทานได้ยื่นพร้อมกับแผนงานการรื้อถอน เพื่อขอความเห็นชอบจากอธิบดี จะต้องได้รับการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องจากบุคคลภายนอก ที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษา
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่ได้รับความเห็นชอบแล้วตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้รับสัมปทาน ดําเนินการทบทวนทุก ๆ สามปี นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบครั้งหลังสุด ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องจากบุคคลภายนอกที่มีคุณสมบัติตามที่อธิบดีประกาศกําหนดตามวรรคหนึ่ง และให้ยื่นประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่ได้รับการรับรองความถูกต้องแล้วให้อธิบดีภายในหกสิบวัน ก่อนครบกําหนดสามปี
ให้อธิบดีพิจารณาประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนตามวรรคสองให้แล้วเสร็จและแจ้งผู้รับ สัมปทานทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน และให้นําความ ในข้อ 9 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 11 หากก่อนวันเริ่มดําเนินกิจกรรมการรื้อถอน มีสิ่งติดตั้งที่ต้องรื้อถอนเพิ่มขึ้น หรือเทคโนโลยีด้านการรื้อถอนเปลี่ยนแปลงไป หรือประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนคลาดเคลื่อน ให้อธิบดีมีอํานาจสั่งให้ผู้รับสัมปทานแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงแผนงานการรื้อถอนหรือประมาณการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว หรือผู้รับสัมปทานอาจยื่นขอเสนอแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงแผนงานการรื้อถอนหรือประมาณการค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่ได้รับความเห็นชอบเองก็ได้
ให้อธิบดีพิจารณาการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุงแผนงานการรื้อถอนหรือประมาณการ ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จและแจ้งผู้รับสัมปทานทราบภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับเอกสารประกอบการพิจารณาครบถ้วน และให้นําความในข้อ 9 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ข้อ 12 ในกรณีที่ผู้รับสัมปทานไม่ดําเนินการตามข้อ 5 ข้อ 8 ข้อ 9 วรรคสาม ข้อ 10 วรรคสอง หรือข้อ 11 ภายในระยะเวลาที่กําหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร อธิบดีโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการมีอํานาจมอบหมายให้บุคคลอื่นดําเนินการแทนหรือร่วมกับผู้รับสัมปทาน โดยใช้จ่ายจาก หลักประกันที่ผู้รับสัมปทานได้วางไว้
|