กฎกระทรวง
ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2559)
ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย พ.ศ. 2533
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 18 (3) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย พ.ศ. 2533 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป
ข้อ 2 ให้ยกเลิกบัญชีอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย บัญชี 2 สำหรับกรณีเมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมจากพื้นที่พัฒนาร่วมแล้ว ท้ายกฎกระทรวง (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย พ.ศ. 2533 และให้ใช้บัญชีอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย บัญชี 2 สำหรับกรณีเมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมจากพื้นที่พัฒนาร่วมแล้ว ท้ายกฎกระทรวงนี้แทน
ให้ไว้ ณ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
[เอกสารแนบท้าย]
บัญชีอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย บัญชี 2 สำหรับกรณีเมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมจากพื้นที่พัฒนาร่วมแล้ว
ตำแหน่ง |
ค่าตอบแทน (เหรียญ สหรัฐ ต่อปี) |
ค่าเบี้ยประชุม (เหรียญสหรัฐ ต่อครั้ง) |
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง |
|||
ตั๋วเครื่องบิน |
ห้องพัก |
เบี้ยเลี้ยง (เหรียญสหรัฐต่อวัน) |
อื่น ๆ |
|||
ประธานร่วม (ประธานกรรมการร่วม) สมาชิกอื่นขององค์กรร่วม (กรรมการ) |
30,000 15,000 |
300 300 |
ชั้นหนึ่ง ชั้นหนึ่ง |
ห้องชุดเดี่ยว ห้องชุดเดี่ยว |
250 250 |
ตามที่จ่ายจริง ตามที่จ่ายจริง |
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงอัตราค่าตอบแทนค่าเบี้ยประชุม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประธานร่วมและสมาชิกอื่นขององค์กรร่วม ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับค่าครองชีพและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในปัจจุบัน และมาตรา 18 (3) แห่งพระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย - มาเลเซีย พ.ศ. 2533 บัญญัติให้การจ่ายค่าตอบแทน ค่าเดินทาง และเบี้ยเลี้ยง ที่ต้องจ่ายให้แก่ประธานร่วมและสมาชิกอื่นขององค์กรร่วม ต้องกระทำโดยการออกกฎกระทรวงโดยความเห็นชอบของรัฐบาลไทยและรัฐบาลมาเลเซีย บัดนี้ รัฐบาลของประเทศทั้งสองได้ให้ความเห็นชอบในบัญชีอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่าย บัญชี 2 สำหรับกรณีเมื่อมีการผลิตปิโตรเลียมจากพื้นที่พัฒนาร่วมแล้ว จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
วิศนี/ปริยานุช/จัดทำ
9 กันยายน 2559