กฎกระทรวง
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอสัมปทานปิโตรเลียม
พ.ศ. 2555
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 14 (5) และมาตรา 23 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 41 มาตรา 42 และมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิก
(1) กฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
(2) กฎกระทรวง ฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514
ข้อ 2 คำขอสัมปทานปิโตรเลียมให้เป็นไปตามแบบ ชธ/ป1 ท้ายกฎกระทรวงนี้
ข้อ 3 ผู้ขอสัมปทานต้องเป็นบริษัท โดยมีหลักฐานและโครงการประกอบคำขอสัมปทาน ดังต่อไปนี้
(1) หลักฐานแสดงการเป็นบริษัท ในกรณีที่ผู้ขอสัมปทานเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศต้องมีหนังสือรับรองของสถานเอกอัครราชทูต สถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศนั้น ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือต้องมีหนังสือรับรองของสถานเอกอัครราชทูต สถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศนั้น หรือต้องมีหนังสือรับรองของโนตารีปับลิคในประเทศนั้นหรือของบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่อย่างเดียวกับโนตารีปับลิคในกรณีที่ประเทศที่เป็นที่ตั้งบริษัทผู้ขอสัมปทานไม่มีโนตารีปับลิค
(2) หลักฐานการเป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทหรือผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทผู้ขอสัมปทาน
(3) หลักฐานแสดงว่ามีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม โดยมีสถาบันที่เชื่อถือได้ ออกหนังสือรับรองว่าเป็นความจริง
(4) โครงการสำรวจปิโตรเลียมพร้อมทั้งเหตุผลทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนโดยสังเขป โดยระบุวิธีการ และกำหนดเวลาที่จะดำเนินการ ตลอดจนประมาณการค่าใช้จ่ายในการนั้น ๆ ด้วย
ข้อ 4 ในกรณีที่ผู้ขอสัมปทานมีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือผู้เชี่ยวชาญไม่เพียงพอหรือครบถ้วน แต่มีบริษัทอื่นซึ่งรัฐบาลเชื่อถือ รับรองที่จะให้ทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือผู้เชี่ยวชาญจนเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม ผู้ขอสัมปทานต้องมีหลักฐานแสดงการรับรองที่จะให้ทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือผู้เชี่ยวชาญและหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ในด้านทุนหรือการจัดการระหว่างบริษัทซึ่งรับรองกับผู้ขอสัมปทาน รวมทั้งหลักฐานตามข้อ 3 (1) (2) และ (3) ของบริษัทซึ่งรับรองด้วย
ข้อ 5 ผู้ขอสัมปทานต้องเสนอข้อผูกพันในด้านปริมาณเงินและปริมาณงานสำหรับการสำรวจปิโตรเลียมในแปลงสำรวจแต่ละแปลง ดังต่อไปนี้
(1) ในช่วงข้อผูกพันช่วงที่หนึ่ง ให้เสนอข้อผูกพันเป็นรายปี
(2) ในช่วงข้อผูกพันช่วงที่สอง ให้เสนอข้อผูกพันเป็นจำนวนรวมสำหรับระยะเวลาของช่วงข้อผูกพันทั้งช่วง ซึ่งหากผู้ขอสัมปทานได้รับสัมปทาน ผู้ขอสัมปทานจะต้องแบ่งข้อผูกพันดังกล่าวเป็นรายละเอียด โดยเสนอให้เป็นแผนงานตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแบบสัมปทาน
ข้อผูกพันในด้านปริมาณเงินและปริมาณงานที่เสนอตามข้อนี้จะต้องมีความชัดเจน และปริมาณเงินที่เสนอจะต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกับปริมาณงานด้วย
ข้อ 6 ผู้ขอสัมปทานจะเสนอให้ผลประโยชน์พิเศษ เช่น การให้เงินทุนการศึกษา เงินอุดหนุนเงินให้เปล่าในการลงนามในสัมปทาน หรือเงินให้เปล่าในการผลิต นอกเหนือไปจากเงื่อนไขที่ทางราชการได้กำหนดให้เป็นผลประโยชน์พิเศษไว้ในการประกาศยื่นคำขอสัมปทานก็ได้
ข้อ 7 ผู้ขอสัมปทานต้องยื่นคำขอสัมปทาน หลักฐาน โครงการ และข้อเสนอตามที่กำหนดต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
ข้อ 8 ผู้ขอสัมปทานต้องชำระค่าธรรมเนียมคำขอสัมปทาน
ข้อ 9 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดวัน เวลา และสถานที่ให้ผู้ขอสัมปทานมาลงลายมือชื่อในสัมปทาน โดยแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ขอสัมปทานทราบแล้ว ถ้าผู้ขอสัมปทานมิได้มาลงลายมือชื่อในสัมปทานภายในกำหนดเวลาดังกล่าวโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้ขอสัมปทานไม่ประสงค์จะขอรับสัมปทานต่อไป
ให้ไว้ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555
อารักษ์ ชลธาร์นนท์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
[เอกสารแนบท้าย]
1. คำขอสัมปทานปิโตรเลียม (ชธ/ป1)
(ดูข้อมูลจากภาพกฎหมาย)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอสัมปทานปิโตรเลียมที่ได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2514) ออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 16 (พ.ศ. 2532) ออกตามความในพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ยังมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่ชัดเจนเพียงพอ สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอสัมปทานปิโตรเลียมให้ชัดเจนและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับสมควรรวมกฎกระทรวงทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นฉบับเดียวกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้ใช้กฎหมาย จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ปริยานุช/ผู้จัดทำ
6 สิงหาคม 2555
ชาญ/ผู้ตรวจ
8 สิงหาคม 2555