พระราชบัญญัติ
องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
พ.ศ. 2533
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2533
เป็นปีที่ 45 ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยองค์กรร่วมไทย มาเลเซีย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติองค์กรร่วมไทย-มาเลเซียพ.ศ. 2533”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 บรรดาบทกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับอื่นใดในส่วนที่บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ข้อความจะแสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น
“บันทึกความเข้าใจ ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)” หมายความว่า บันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักรไทยและมาเลเซียเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรร่วมเพื่อแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในพื้นดินใต้ทะเลในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของประเทศทั้งสองในอ่าวไทย ฉบับลงนามวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1979 (พ.ศ. 2522)
“ความตกลง” หมายความว่า ความตกลงว่าด้วยธรรมนูญและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดตั้งองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย ซึ่งได้ลงนามโดยรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
“รัฐบาลทั้งสอง” หมายความว่า รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย
“องค์กรร่วม” หมายความว่า องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนองค์กรร่วมไทย-มาเลเซียตามมาตรา 12
“พื้นที่พัฒนาร่วม” หมายความว่า พื้นที่ในบริเวณที่กำหนดของไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยและมาเลเซียในอ่าวไทยตามมาตรา 9
“เส้นแบ่งเขตอำนาจ” หมายความว่า เส้นตรงซึ่งเชื่อมจุดพิกัดดังต่อไปนี้
(เอ) 6 องศา 50.0 ลิปดา เหนือ 102 องศา 21.2 ลิปดา ตะวันออก
(เอ็กซ์) 7 องศา 35.0 ลิปดา เหนือ 103 องศา 23.0 ลิปดา ตะวันออก
ซึ่งแบ่งเขตอำนาจทางแพ่งและทางอาญาในพื้นที่พัฒนาร่วม
“ทรัพยากรธรรมชาติ” หมายความว่า ทรัพยากรธรรมชาติใด ๆ ที่ไม่มีชีวิต รวมทั้งแร่ น้ำมันแร่ดิบ และโลหะใด ๆ
“ปิโตรเลียม” หมายความว่า น้ำมันแร่ดิบใด ๆ หรือไฮโดรคาร์บอนอื่นใดและก๊าซธรรมชาติซึ่งอยู่ในสภาพอันเป็นธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลวที่ปากหลุม รวมทั้งหินบิทูเมนและทรัพยากรอื่นที่สะสมอยู่เป็นชั้น ๆ ซึ่งสามารถจะสกัดน้ำมันออกมาได้
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้